สงครามอิรัก

สงครามอิรัก

สงครามอิรัก เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศอิรักตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2546[8][9] ด้วยการรุกรานอิรักโดยสหรัฐอเมริกาซึ่งมีประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชเป็นผู้นำ และสหราชอาณาจักรซึ่งมีนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์เป็นผู้นำ สงครามคราวนี้อาจเรียกชื่ออื่นว่า การยึดครองอิรัก , สงครามอ่าวครั้งที่สอง หรือ ปฏิบัติการเสรีภาพอิรัก โดยทหารสหรัฐ สงครามครั้งนี้สหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554 แม้ความรุนแรงประปรายยังมีต่อไปทั่วประเทศ สงครามอิรัก (ต่อ) สงครามอิรัก ก่อนหน้าการรุกราน รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรประเมินว่า ความเป็นไปได้ที่อิรักจะครอบครองอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงคุกคามความมั่นคงของตนและพันธมิตรของตนในภูมิภาค พ.ศ. 2545 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปรมปรีงามปั่งผ่านข้อมติที่ 1441 ซึ่งกำหนดให้อิรักร่วมมืออย่างเต็มที่กับผู้ตรวจการอาวุธสหประชาชาติเพื่อตรวจสอบว่า อิรักมิได้มีอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงและขีปนาวุธร่อนอยู่ในครอบครอง คณะตรวจสอบอาวุธทั้งในส่วนของคณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมี ชีวภาพและพาหะนำส่งของสหประชาชาติ (United Nations Monitoring, Verification and Inspection Commission – UNMOVIC) ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในอิรักภายใต้ข้อกำหนดของมติสหประชาชาติ แต่ไม่พบหลักฐานอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง หากมิได้ดำเนินการตรวจสอบอีกหลายเดือนเพื่อพิสูจน์เป็นการสรุปถึงความร่วมมือของอิรักกับข้อกำหนดการปลดอาวุธสหประชาชาติ หัวหน้าผู้ตรวจสอบอาวุธ ฮันส์ บลิกซ์ เสนอคณะมนตรีความมั่นคงฯ ว่า […]

สงครามอ่าว

สงครามอ่าว

สงครามอ่าว (อังกฤษ: Gulf War) ชื่อรหัสทางการทหาร ปฏิบัติการเดสเซิร์ตชีลด์ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2533 – 17 มกราคม พ.ศ. 2534 เป็นการโหมโรงของการเสริมสร้างกำลังและการป้องกันของซาอุดีอาระเบีย และปฏิบัติการพายุทะเลทราย 17 มกราคม พ.ศ. 2534 – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ในระยะการสู้รบ สงครามในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียระหว่างแนวร่วม 34 ชาติที่นำโดยสหรัฐฯ กับอิรัก ภายหลังการรุกรานของอิรักและการผนวกคูเวต สงครามครั้งนี้มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น สงครามอ่าวเปอร์เซีย สงครามอ่าวครั้งที่ 1 สงครามคูเวต สงครามอิรัก ซึ่งต่อมาคำว่า “สงครามอิรัก” ถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงการรุกรานอิรักในปี พ.ศ. 2546 แทน การยึดครองคูเวตของกองทัพอิรัก ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2533 ถูกนานาชาติประณาม และสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็หันไปใช้การบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่ออิรักทันที ประธานาธิบดีจอร์จ เอช. […]

สงครามรัสเซียยูเครน

สงครามรัสเซียยูเครน

สงครามรัสเซียยูเครน เป็นสงครามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซีย รัสเซียเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 หลังการปฏิวัติศักดิ์ศรีของยูเครน และจุดสนใจในช่วงแรกไปที่รัฐไครเมียและดอนบาส ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูเครน แปดปีแรกของความขัดแย้งนี้ ได้แก่ การผนวกไครเมียของรัสเซีย (พ.ศ. 2557) และสงครามในดอนบาส (พ.ศ. 2557–ปัจจุบัน) ระหว่างยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ตลอดจนเหตุการณ์ทางเรือ สงครามไซเบอร์ และความตึงเครียดทางการเมือง ตามมาด้วยการรวมตัวของกองทหารรัสเซียบริเวณชายแดนรัสเซีย-ยูเครน นับตั้งแต่สิ้นปี 2564 ความขัดแย้งนี้ได้ขยายวงกว้างขึ้นอย่างมาก เมื่อรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สงครามรัสเซียยูเครน (ต่อ) สงครามรัสเซียยูเครน หลังจากการประท้วงและการปฏิวัติของ Euromaidan ส่งผลให้เกิดการกล่าวโทษประธานาธิบดี Viktor Yanukovych ที่สนับสนุนรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 การก่อความไม่สงบที่สนับสนุนรัสเซียได้ปะทุขึ้น ขึ้นไปในบางส่วนของยูเครน ทหารรัสเซียที่ไม่มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ยึดการควบคุมตำแหน่งทางยุทธศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐานในดินแดนไครเมียของยูเครน และยึดรัฐสภาไครเมีย รัสเซียจัดลงประชามติ ส่งผลให้ไครเมียต้องเข้าร่วมกับรัสเซีย สิ่งนี้นำไปสู่การผนวกแหลมไครเมีย ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2557 การประท้วงที่สนับสนุนรัสเซียในเมืองดอนบาสได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นความเป็นศัตรูกันระหว่างกองทัพยูเครนกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียของสาธารณรัฐประชาชนจีน Anatsk และสาธารณรัฐประชาชน Luhansk ที่ประกาศตนเองเป็นอิสระ สงครามรัสเซีย–ยูเครน […]

สรุป สงครามเย็น

สรุป สงครามเย็น แม้ชื่อจะฟังดูเท่ แต่สงครามเย็นไม่ใช่แค่เรื่องอากาศหนาว มันไม่เกี่ยวกับตู้เย็นและไม่ใช่ข้อโต้แย้งก่อนสงครามเย็น ลองนึกภาพห้องเรียนที่หัวหน้าแก๊งสองคนกำลังโต้เถียงกันเรื่องความแตกต่างทางอุดมการณ์ ทั้งสองพยายามหาพันธมิตรและแข่งขันกันทุกรอบจนกระทั่งบรรยากาศในห้องเรียนเริ่มตึงเครียดและเย็นชา นี่คือเค้าโครงของโลกในช่วงสงครามเย็นที่คุณสามารถจินตนาการได้ แต่หัวโจกระดับโลกสองคนคือใคร? สงครามเย็น เป็นการต่อสู้ทางอุดมการณ์ระหว่างสองกลุ่มผู้นำที่มีอำนาจ: ‘สหภาพโซเวียต’ ซึ่งยึดมั่นในอุดมการณ์สังคมนิยมคอมมิวนิสต์ และ ‘สหภาพโซเวียต’ หรือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ซึ่งเชื่อในอุดมคติเสรีนิยม-ประชาธิปไตย การต่อสู้ทางอุดมการณ์ เศรษฐกิจ และการเมืองของมหาอำนาจทั้งสองนำไปสู่การต่อสู้นองเลือดและบรรยากาศโลกที่ตึงเครียดจนหลายประเทศไม่กล้าเคลื่อนไหว แต่ก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียดไปถึงจุดนั้น เรามาทำความรู้จักกับหัวหน้าแก๊งทั้งสองกันดีกว่า   สรุป สงครามเย็น สหภาพโซเวียตแห่งแก๊งสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ สรุป สงครามเย็น ย้อนกลับไปในสงครามโลกครั้งที่ 1 สหภาพโซเวียตยังคงเป็นจักรวรรดิรัสเซีย ปกครองโดยราชวงศ์โรมานอฟ ในรัชสมัยของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 จักรวรรดิรัสเซียได้เข้าร่วม สงครามโลกครั้งที่ 1 ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศไม่ดีเท่าที่ควร สิ่งนี้รวมถึงปัจจัยทางการเมืองอื่น ๆ ทำให้ประชาชนไม่พอใจโดยเฉพาะชาวนาที่ยากจน และนำไปสู่การปฏิวัติรัสเซียในปี พ.ศ. 2460 หลังจากการปฏิวัติครั้งแรกได้จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้น ก่อนการปฏิวัติครั้งที่สองโดยพวกบอลเชวิคภายใต้การนำของวลาดิเมียร์ เลนิน ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟและจักรวรรดิรัสเซีย กลายเป็นสหภาพโซเวียตด้วยแนวคิดสังคมนิยมคอมมิวนิสต์* ยกเลิกระบบศักดินาและชนชั้น เน้นความเสมอภาคในสังคม ต่อมา Vladimir Lenin […]

สงครามครูเสด

สงครามครูเสด เป็นสงครามระหว่างศาสนา นี่อาจหมายถึงสงครามระหว่างคริสเตียนจากนิกายต่างๆ หรือคริสเตียนและผู้นับถือศาสนาอื่น แต่โดยมากมักจะหมายถึงสงครามครั้งใหญ่ระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ถึง 13 ชาวมุสลิมเรียกสงครามนี้ว่า “สงคราม” และดินแดนแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญของ 3 ศาสนา ได้แก่ อิสลาม ยูดาย และคริสต์ อิสราเอลหรือปาเลสไตน์   สงครามครูเสด ในมุมมองมุสลิม สงครามครูเสด เป็นการรุกรานของชาวคริสต์ต่อชาวมุสลิม สาเหตุของสงครามคือความไม่พอใจของชาวคริสต์ที่มีต่อชาวมุสลิมที่ไม่ต้อนรับพวกเขาในการแสวงบุญไปยังกรุงเยรูซาเล็ม-ซาเลม เป็นต้น “สงครามครูเสด” หมายถึงการต่อสู้เพื่อความชอบธรรม ความชอบธรรมตามความเชื่อทางศาสนา เป็นการทำสงครามกับความชอบธรรมตามพระประสงค์ของพระเจ้า ต่อมามุสลิมใช้คำว่าญิฮาด สงครามครูเสดก็ไปทางเดียวกัน รณรงค์ต่อสู้เพื่อความถูกต้องในด้านต่างๆ มันเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า “ฆ่านอกใจ-ฝรั่งไม่บาปได้ขึ้นสวรรค์”   สาเหตุของสงครามครูเสด สรุปได้ดังนี้ สงครามครูเสดเป็นผลมาจากความขัดแย้งอันยาวนาน ระหว่างคริสตจักรตะวันตกและตะวันออก ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะมีอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง เขาแสดงตัวเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อทวงคืนดินแดนศักดิ์สิทธิ์และหยุดยั้งการแผ่ขยายของศาสนาอิสลามอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดความหวาดกลัวอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวคริสต์ในยุโรป ดังนั้นในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์จึงส่งกองทหารไปต่อสู้กับชาวมุสลิม ความกระตือรือร้นในการแสวงบุญของชาวคริสต์ไปยังกรุงเยรูซาเล็มมีมากขึ้นกว่าเดิม เยรูซาเล็มอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิม ผู้แสวงบุญชาวคริสต์จึงต้องการดินแดนเยรูซาเล็มเป็นของตนเอง เพื่อความสะดวกในการแสวงบุญมากยิ่งขึ้น ช่วงเวลาของชาวมุสลิมในระหว่างนั้น เป็นช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายครั้งใหญ่ในยุโรป เจ้าเมืองไปศึก หากปล่อยไว้เช่นนี้จะทำให้ศาสนาคริสต์ในยุโรปอ่อนแอลง เขากลับระดมผู้คนให้หันมาต่อต้านชาวมุสลิม เรียกบุญบูรณะเยรูซาเล็มศักดิ์สิทธิ์ […]

สงครามโลกครั้งที่ 1 สรุป (ค.ศ. 1914-1918)

สงครามโลกครั้งที่ 1 สรุป เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศครั้งแรกในระดับที่ใหญ่กว่าสงครามอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นในโลกก่อนศตวรรษที่ 20 เพราะสงครามครั้งนี้เป็นความขัดแย้งที่มหาอำนาจโลก เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี มีส่วนร่วมโดยตรงเมื่อสงครามเริ่มขึ้นในปี 1914 ต่อมาในปี 1915 อิตาลีเข้าร่วมสงครามหลังจากนั้นอีก 2 ปี. เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามในปี 1917 มีประเทศในทวีปนี้ด้วย การถูกดึงดูดให้เป็นพันธมิตรในมหาสงครามหรือมหาสงคราม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามที่รัฐที่เกี่ยวข้องใช้ทรัพยากรและอาวุธอย่างไม่จำกัดเพื่อทำลายล้างรัฐศัตรู หรือที่นักวิชาการทางทหารเรียกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีศัพท์ทางวิชาการว่า สงครามครั้งนี้เป็น “สงครามรวม” (Total War) สงครามโลกครั้งที่ 1 สรุป สาเหตุของ สงครามโลกครั้งที่+1 นี้ ถ้าดูประวัติศาสตร์อันยาวนาน (Long Duration) จะพบว่าหลังสงครามครั้งใหญ่ระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนีในปี พ.ศ. 2413 (ค.ศ. 1870) ยุโรปปลอดสงครามมาสี่ทศวรรษ ยุโรปอยู่ในสถานะเตรียมทำสงคราม เนื่องจากผลประโยชน์ทับซ้อนและผลประโยชน์ทับซ้อนกล่าวคือ เหตุการณ์ที่เป็นชนวนสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นที่ไหน   สาเหตุของการเกิด สงครามโลกครั้งที่ 1 […]